เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Pentagon (กระทรวงกลาโหมอเมริกา) ได้เปิดตัวอุปกรณ์เลเซอร์ระยะไกลที่สามารถสแกนลักษณะการเต้นของหัวใจที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล เพื่อวางมาตราการในการป้องกันผู้ก่อการร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
เราอาจคุ้นเคยกับอุปกรณ์เลเซอร์ตามนิยายวิทยาศาสตร์ หรือ การ์ตูนมาเป็นจำนวนมาก แต่ใครจะคิดว่า Pentagon จะประยุกต์ใช้มันเพื่อเอามาสแกนลักษณะการเต้นของหัวใจเพื่อระบุตัวบุคคล เลเซอร์นี้ถูกเรียกว่า Jetson ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า vibrometry ทำให้ Jetson สามารถตรวจจับการสั่นสะเทือนที่ละเอียดอ่อนของร่างกาย ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของเลือดทั่วทั้งระบบไหลเวียนโลหิตได้ ใจความสำคัญของมันคือหัวใจของเราทุกคนนั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวมันเอง มันไม่ซ้ำกัน นั่นจึงใช้สามารถระบุตัวตนของคนๆนั้นได้ Jetson ใช้งานได้ดีในระยะ 200 เมตร โดยหลักการมันจะทำงานคล้าย sniper มนุษย์จะเป็นคนเล็งเป้าหมายที่ต้องการสแกน เมื่อเป้าหมายถูกล็อคเครื่องจะทำการสแกนซ้ำภายในเวลา 30 วินาที เพื่อทำการเก็บข้อมูล และประมาลผลว่าคนคนนั้นคือใครในภายหลัง
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ที่ทำได้มากกว่าการช่วยทหารสอดแนม
อย่างแรกคือเรื่องของความเป็นส่วนตัว เทคโนโลยีนี้ไม่มีชิป ไม่มีรหัส ไม่มีกุญแจ มันเป็นลักษณะทางกายภาพของคุณที่ไม่มีใครสามารถมาขโมยไปได้ และคุณก็ไม่สามารถปิดบังมันได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งแตกต่างจากระบบการจดจำใบหน้าที่ยังคงมีข้อผิดพลาดมากทีเดียว
อย่างที่สองคือเรื่องของการพยาบาล อย่างที่เราทราบการสแกนการเต้นของหัวใจแต่ละครั้งเราต้องติดตั้งเครื่องสแกนขนาดใหญ่วุ่นวายมากมาย หรือสะดวกกว่านั้นก็ Apple Watch แต่หากเราใช้อุปกรณ์นี้ติดตั้งในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล มันก็จะสามารถสแกนการเต้นหัวใจของผู้ป่วยได้ทั้นทีโดยไม่ต้องเสียเวลามากมายเลย
อย่างที่สามการระบุตัวบุคคลดำเนินคดีทางกฏหมาย และ ด้านจริยธรรม แน่นอนว่าเราไม่ได้อยู๋ในสังคมที่สมบูรณ์แบบอาชญากรรมย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาและตำรวจก็พยายามใช้ทุกเทคโนโลยีที่มีเพื่อทำการระบุจับตัวคนร้าย ถึงแม้บางอย่างจะมีการละเมิดจริยธรรมก็ตาม ดังนั้นเทคโนโลยีนี้จะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้เพราะเราสามารถใช้ Jetson ในการระบุตัวตนหากเราสงสัยว่าเขามีความผิดได้ ซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า และ การสแกนลายนิ้วมือที่สามารถปลอมแปลงได้
แน่นอนว่า Jetson เป็นเพียงแค่ระบบต้นแบบเท่านั้น เพราะมันยังต้องมีข้อจำกัดอีกมาก ไหนจะต้องใช้เวลาถึง 30 วินาทีในการสแกน รวมถึงคนคนนั้นต้องอยู่นิ่งด้วย แต่หาก Jetson ถูกพัฒนาได้สมบูรณ์แล้วละก็มันจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากทีเดียว
ที่มา: thenextweb
Comments